ฟีเจอร์ของ Windows 7 คาดว่าไม่น่าจะจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากว่านี้ในเวอร์ชันสุดท้าย แต่ด้วยการทดสอบซ้ำไปซ้ำมาในเวอร์ชัน Release Canddidate ผมเชื่อว่าวิศวกรของไมโครซอฟท์ต้องหาทางพยายามปรับแต่งแก้ไขโค้ดให้มีประสิธิภาพมากว่านี้แน่นอน
ถ้าหากทดสอบ Windows 7 เวอร์ชันสุดท้ายในอนาคต ยืนยันถึงผลคะแนนไม่แตกต่างจากที่ทดสอบไปเบื้องต้น ผมเชื่อแน่ว่า กลุ้มผู้ใช้งานวินโดวส์คงผิดหวังมากๆ และก็ตามมาด้วยเสียงบ่นว่า Windows Vista ยังทำงานได้ช้ากว่า Windows XP เสียอีก ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็แปลว่า Windows 7 ไม่สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นไปจาก Windows Vista ได้มากนักแล้วจะแนวโน้มน้าวให้คนที่ใช้ Windows Vista หรือ XP มาอยู่ปฏิบัติการตัวใหม่ได้อย่างไร
แต่ถึงกระนั้น ผมเองก็ยังไม่ได้ทดสอบความสามารถอื่นๆ อย่างเช่น เวลาที่ใช้ในการเปิดเครื่อง ที่ Windows 7 ทำงานได้ที่กว่า Windows Vista แน่นอน และวิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้คุณใช้ Windows 7 แล้วรู้สึกดรคือ ไปโหลดเวอร์ชัน Release Canddidate มาทดลองใช้งานก่อนนั้นเอง
วิธีการทดสอบ
ผมได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง ในการทดสอบครั้งนี้ ด้วยคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป Maingear M4A79T Deluxe และ HP Pavilion A6710t และแลบทอปอีก 1 เครื่องอย่าง Dell Studio XPS 16 โดยที่คอมพิวเตอร์เดสก์ทอป Maingear จะมาพร้อมกับซิปประมวลผล AMD Phenom II X4 955 Black Edition ที่มีความเร็ว 3.2 กิกะเฮิรตซ์ แต่ได้โอเวอร์คล็อกไปที่ความเร็ว 3.71 กิกะเฮิรตซ์ แรม 4 กิกะไบต์ พร้อมกราฟิกการ์ด ATI Radeon HD 4890 แบบคู่ ส่วน HP Pavilion คอวพิวเตอร์เดสก์ทอปเมนสตีม จะใช้ซิปประมวลผล Intel Pentium dual – core E5300 ที่มีความเร็ว 2.6 กิกะเฮิรตซ์ แรม 3 กิกะไบต์ และใช้กราฟิกการ์ด nVidia GeForce 930GE สุดท้าย แลปทอป Dell Studio XPS 16 จะมาพร้อมกับ ซิปประมวลผล Intel Core 2 Duo โปรเซสเซอร์ ที่ความเร็ว 2.4 กิกะไบต์ แรม 4กิกะไบต์ และกราฟิกการ์ด ATI Mobility Radeon HD 3670
คอมพิวเตอร์ทั้ง 3 เครื่องนี้ จะถูกรันด้วยชุดโปรแกรมทดสอบ WoridBennch 6 ดว้ยการติดตั้ง Windows Vista Ultimate with SP 1 เวอร์ชัน 32 บิตด้วยการฟอร์แมตเครื่องใหม่ จากนั้นค่อยทดสอบ
Windows 7 Ultimate Release Canddidate เวอร์ชัน 32 บิตเช่นกัน จากนั้นก็จัดการอัพเดตระบบปฏิบัติการให้เรียบร้อยก่อนด้วย Windows Update และติดตั้งไดร์เวอร์ฮาร์ดแวร์ที่ใหม่ที่สุดเท่าที่จะหาได้